VIEW POST
[Tactics Analysis] เจาะลึก "ซูบิเมนดี้-เจา เนเวส" สองแข้งเป้าหมายเมื่อปืนอยากได้กลางสไตล์ DLP
การสร้างทีมอาร์เซน่อล มีแผนงานที่ชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ก้าวแรกก่อนที่พวกเขาจะขึ้นมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ เริ่มต้นในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 เมื่อพวกเขาเซ็นสัญญา 6 นักเตะใหม่ที่อายุต่ำกว่า 23 ปี โดยเป้าหมายที่จะให้แข้งเหล่านี้เติบโตขึ้นมาพร้อมกัน ร่วมกับนักเตะดาวรุ่งที่มีอยู่แล้วในทีม
ถัดมาในซัมเมอร์ปี 2022 พวกเขาเติมผู้เล่นที่มีประสบการณ์ และมีมิติที่แตกต่างออกไป เราเลยได้เห็น กาเบรียล เฆซุส และโอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ สองนักเตะจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้เข้ามา ส่วนปีก่อนพวกเขาก็ทุ่มค่าตัวเป็นสถิติสโมสรกับการคว้า เดแคลน ไรซ์ มาร่วมทีม
สำหรับแผนการเสริมทัพของอาร์เซน่อลในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากจบในอันดับ 2 ของตารางคะแนน และมีแต้มห่างจากซิตี้แค่ 2 แต้ม พวกเขาต้องเสริมอะไรเพื่อเอาชนะแมนซิตี้ให้ได้ กองกลางและตัวรุก เป็นสองพื้นที่ที่อาร์เซน่อลต้องการเสริมแกร่งทีม เบนจามิน เซสโก้ คือเป้าหมายอันดับ 1 ในการเสริมแนวรุก แต่การที่นักเตะเลือกต่อสัญญาฉบับใหม่กับไลป์ซิก ทำให้นับตั้งแต่นั้น อาร์เซน่อลเบนความสนใจมาที่ผู้เล่นในตำแหน่งกอกงลาง ซึ่งทางทีมข่าว The Athletic เคยรายงานว่า อาร์เซน่อลให้ความสนใจ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ และเจา เนเวส กองกลางวัย 19 ปีของเบนฟิก้า
ยังเลือกในแนวรุกยังคงเป็นสิ่งที่อาร์เซน่อลสนใจอยู่ แต่ยังไม่ปรากฏเป้าหมายที่ชัดเจน ตรงข้ามกับแดนกลางที่พวกเขามีสเปกที่อยากได้ไว้แล้ว นั่นคือ กองกลางหมายเลข 6 ที่จะเข้ามาสนับสนุนการเล่นให้กับ เดแคลน ไรซ์
เมื่อใช้การผสมผสานระหว่างข้อมูลเชิงวิเคราะห์ และวีดีโอ มาประเมินว่า ซูบิเมนดี้ และเนเวส จะเหมาะกับอาร์เซน่อลอย่างไร?
มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (กองกลางวัย 25 ปีจากเรอัล โซเซียดัด)
ซูบิเมนดี้ เป็นนักเตะที่อาร์เซน่อลให้ความสนใจมาสักพักแล้ว กองกลางของโซเซียดัดเปนผู้เล่นหมายเลข 6 โดยธรรมชาติ เขาสามารถถอยลงมาเล่นระหว่าง หรือเคียงข้างกับเซนเตอร์แบ็คได้ เพื่อหนีการเพลสซิ่งของคู่แข่ง ในการจ่ายบอลระหว่างเขา กับ มิเกล เมริโน่ กองกลางเพื่อนร่วมทีม, ฮามารี ตราโอเร่ แบ็คขวา และโรบิน เลอ นอร์ม็อง กองหลังตัวกลาง ซึ่งเป็นแกนหลังในการขึ้นเกมส์ของโซเซียดัดเมื่อฤดูกาลก่อน
ภาพประกอบด้านล่าง จะแสดงให้เห็นถึงลำดับการมีส่วนร่วมไปจนถึงจังหวะจบสกอร์แบบโอเพ่นเพลย์ จะเห็นได้ว่า ซูบิเมนดี้ ไม่ได้ขึ้นไปจบด้วยการทำประตูหรือสร้างโอกาสทำประตูโดยตรง เขาจะมีส่วนร่วมกับการ Build up เป็นส่วนใหญ่
ซูมิเนนดี้ จ่ายบอล 51.7 ครั้งต่อ 90 นาที สูงสดเป็นอันดับ 3 ของทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ขณะที่เขาได้สัมผัสบอล 63.2 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 4 การจ่ายบอลของเขาประสบความสำเร็จ 86% โดยเฉลี่ย 22.9 ครั้งเป็นการจ่ายบอลสั้นและบอลระยะกลาง มีความแม่นยำระดับ 90% ขณะที่บอลยาวเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 90 นาที เป็นการจ่ายบอลสำเร็จ 68%
ตามแผนภาพด้านล่าง เขาได้สร้างเครือข่ายในการจ่ายบอลให้กับผู้เล่นเกือบทุกคนในทีม โดยเฉพาะ เลอ นอร์ม็องด์, เมริโน่, ตราโอเร่ และอิกอร์ ซูเบลเดีย การจ่ายบอลเป็นสิ่งสำคัญของระบบการเล่นของโซเซียดัด โดยซูบิเมนดี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวกำหนดจังหวะการเล่นของทีม ด้วยการจ่ายบอลสั้นจากแนวลึก
ตัวอย่างจากเกมส์ที่โซเซียดัดพบกับบาร์เซโลน่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
เขาถอยลงต่ำไปถึงกรอบเขตโทษของตัวเอง เพื่อไปรับบอลจากผู้รักษาประตูของทีม ก่อนที่เขาจะจ่ายบอลระหว่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และเฟอร์มิน โลเปซ สองผู้เล่นของบาร์เซโลน่า ไปให้กับเพื่อนร่วมทีม ที่ยืนอยู่โล่งๆ และสามารถพลิกบอลขึ้นหน้าไปได้
ในทำนองเดียวกัน เขายังสามารถแสดงให้เห็นถึงการพลิกบอลหนีการเพลสซิ่งได้ ในเกมส์กับบียาร์เรอัล หลังจากที่เขารับบอลจากเพื่อนร่วมทีมแถวหน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง เขารับบอลและพลิกบอลเร็วหนึการประกบ ก่อนที่จะพาบอลขึ้นหน้าไปจ่ายต่อให้กับเพื่อนร่วมทีมในบริเวณกลางสนาม
จากสถิติการจ่ายบอลของซูบิเมนดี้ เขาเป็นผู้เล่นที่พยายามจะจ่ายบอลขึ้นหน้าเป็นส่วนใหญ่ เขาจ่ายบอลขึ้นหน้าเฉลี่ย 5.2 ครั้ง และจ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายเฉลี่ย 4.6 ครั้ง หากมิเกล อาร์เตต้า ต้องการใช้งานเขาแบบเดียวกันนี้ที่อาร์เซน่อลอาจจะได้เห็น ไรซ์ ไปเล่นในบทบาทหมายเลข 8 และทำให้เขาเล่นได้อย่างผ่อนคลาย และไม่ต้องกังวลกับเรื่องการออกบอล ซึ่งเราได้เห็นแนวโน้วที่ดีตั้งแต่ครึ่งฤดูกาลหลัง เมื่อใช้ จอร์จินโญ่ หรือโธมัส ปาร์เตย์ ในบทบาทหมายเลข 6 ทำให้อาร์เซน่อลสามารถเคลื่อนบอลขึ้นหน้าได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ซูบิเมนดี้ ยังเป็นคนที่เล่นเกมส์รับได้ดีด้วย แล้วเมื่อไรซ์ ถูกใช้เป็นหมายเลข 8 เขาจะเข้าร่วมในการเพลสซิ่งแดนบนร่วมกับแนวรุกคนอื่นได้ ดังนั้นการวางผู้เล่นหมายเลข 6 ไว้ด้านหลังเขาเป็นสิ่งที่จำเป็น จอร์จินโญ่ และปาร์เตย์ เป็นคนที่อ่านเกมส์ได้ดี แต่ความคล่องตัวของเขาลดลง ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมันอาจจะทำให้คู่แข่งสามารถหลุดทะลุเมื่อแกะเพลสซิ่งของอาร์เซน่อลได้
ซูบิเมนดี้ มีสถิติแย่งบอลสำเร็จ 5.7 ครั้งต่อ 90 นาที สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในทีมโซเซียดัด เป็นรองแค่เมริโน่ (7.1 ครั้ง) ขณะที่การอ่านเกมส์ เขาสามารถดักตัดบอลได้ 2.3 ครั้งต่อการสัมผัสบอล 1,000 ครั้งของคู่แข่ง สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของทีม
แต่เขาอาจจะไม่ใช่ผู้เล่นที่เขาสกัดบอลแบบดุดัน เขาเข้าแท็กเกิ้ล 3.1 ครั้งต่อการสัมผัสบอล 1,000 ครั้งของคู่แข่ง จัดอยู่ในอันดับ 12 ของทีม ขณะที่การชนะในการเข้าสกัดอยู่ที่ 55% เท่านั้น ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 62% อย่างไรก็ตามเขาทำฟาล์วเพียง 1.2 ครั้ง และมีอัตราความสำเร็จ 55% เมื่อเข้าสกัดผู้เล่นที่พยายามเลี้ยงผ่าน
ความสามารถหลักของเขาคือการอ่านเกมส์ ในการแย่งบอล และดักตัดบอลจากคู่แข่ง เราสามารถเห็น IQ ในการเล่นเกมส์รับของเขาได้จากเกมส์ที่พบกับแอธเลติก บิลเบา ที่เขาเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว เพื่อแย่งบอล แล้วหลังจากตัดบอลได้ เขาใจเย็นที่จะหนีการสกัด ในการส่งบอลออกมาเพื่อโต้กลับเร็ว
จุดที่ซูบิเมนดี้ ขาดหายไปคือการเล่นเกมส์รุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการพาบอลขึ้นหน้า เขามีอันตรายการพาบอล 31.9 ครั้งต่อ 90 นาที สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโซเซียดัด แต่มีเพียงแค่ 7% ที่เป็นการพาบอลเข้าไปในระยะอย่างต่ำ 10 เมตรในกรอบเขตโทษของคู่แข่ง
ดังที่แสดงในข้อมูลจาก Smarter Scout ซึ่งให้คะแนนผู้เล่นตั้งแต่ 0-99 ขึ้นอยู่กับความถี่ที่นักเตะกระทำในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คุณจะเห็นได้ว่า ซูบิเมนดี้ มีคะแนนด้านการเลี้ยงบอลที่สูง แต่ไม่ได้เป็นการเลี้ยงไปข้างหน้า จุดเด่นที่สุดของเขาคือการแย่งบอล และการตัดบอล ที่มีเรตติ้ง 86 คะแนน
เจา เนเวส (กองกลางวัย 19 ปีของเบนฟิก้า)
เนเวส ในฤดูกาล 2023/24 ของเนเวสกับเบนฟิก้า ทำให้เขากลายเป็นกองกลางแบบ Box-to-box และเต็มไปด้วยพลังงานอันเหลือล้น
เช่นเดียวกับซูบิเมนดี้ เนเวสมีส่วนร่วมอย่างมากในการ Build up ของทีม เขาเป็นนักเตะที่จับบอลมากที่สุดเฉลี่ย 85.9 ครั้ง และความพยายามจ่ายบอลมากที่สุด 63.5 ครั้งต่อ 90 นาที มีค่าความสำเร็จอยู่ที่ 88.5% เมื่อเราพิจารณาจาก Touch Map ของเขาในเกมส์แชมเปี้ยนลีกและยูโรป้าลีก เขาเคลื่อนที่ไปทั่วพื้นที่แดนกลาง และออกไปเล่นแถวริมเส้นได้ด้วย
เหมือนกับ ซูบิเมนดี้ ทาง เนเวส สามารถถอยลงรับบอลระหว่างคู่เซนเตอร์ หรือรับบอลแถวหน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง ดังตัวอย่างในเกมส์กับริโอ อาฟ ที่เขาเริ่มต้นอยู่บริเวณกลางสนาม เขาวิ่งกลับมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรับบอลจากเซนเตอร์ และผู้รักษาประตู ถ่ายบอลกันจนเขามีพื้นที่ว่างในการพาบอลขึ้นหน้า
การจ่ายบอลขึ้นหน้าก็เป็นจุดเด่นของเนเวส เขาจ่ายบอลขึ้นหน้า 6.7 ครั้ง และจ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 6.9 ครั้ง ต่อ 90 นาที ทั้งหมดทำให้เขาอยู่ในกลุ่มท็อปของพรีไมร่า ลีกาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนี้เขายังสามารถต้านทานกับแรงกดดันจากคู่แข่งได้อย่างดีเยี่ยม แต่ที่เขาดูจะโดดเด่นกว่าซูบิเมนดี้คือการพาบอลขึ้นไปข้างหน้า
เขามีค่าเฉลี่ย 1.6 ครั้งในการพาบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย และมีระยะในการพาบอล 131.9 หลา แม้ว่าเขาจะเสียบอลในบางครั้ง แต่สไตล์การเล่น และทักษะการครองบอลของเขา เป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับความเสี่ยง
ทักษะการเลี้ยงบอลของเขา ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเกมส์กับ Casa Pia เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เขาพักอกเอาบอลลงบริเวณนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่เขาจะเลี้ยงบอลแหวกกลุ่มผู้เล่นของคู่แข่ง ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงเสาแรกในกรอบเขตโทษ ที่ทำให้ ริคาร์โด้ บาติสต้า ผู้รักษาประตูของคู่แข่งต้องออกแรงเซฟ
แม้ว่า เนเวส จะมีจุดด้อยในการเล่นเกมส์รับอยู่บ้าง แต่เขาก็ช่วยปกป้องแผงแนวรับได้ การสกัดบอลของเขาอยู่ที่ 5.6 ครั้งต่อการสัมผัสบอล 1,000 ครั้งของคู่แข่ง ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในทีมเบนฟิก้า ขณะที่เขาแย่งบอลสำเร็จ 9.4 ครั้งต่อ 90 สูงที่สุดเป็นอันดับสอง เขาชนะในการเข้าสกัดบอล 72%
ด้วยส่วนสูง 5 ฟุต 7 นิ้ว (170 เซนติเมตร) แต่เขาเอาชนะในการแย่งโหม่งสำเร็จ 58.6%
ความเร็วในการเข้าแย่งบอลคืน และความตืนตัวในการเล่นเกมส์รับ แสดงให้เห็นในตัวอย่างเกมส์กับ เอสโตริล ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะวิ่งตามหลังคู่แข่งอยู่หลายช่วงตัว แต่เขาวิ่งสปินซ์เข้าไปสไลด์แย่งบอล ช่วยทีมได้แบบหวุดหวิด
ซูบิเมนดี้ คือโปรไฟล์ผู้เล่นที่อาร์เซน่อลต้องการ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพความฟิตของโธมัส ปาร์เตย์ ที่พลาดลงเล่นไป 40 เกมส์ในช่วง 2 ฤดูกาลท่ผ่านมา และสัญญาของ จอร์จินโญ่ จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ดังนั้น ผู้เล่นหมายเลข 6 สำหรับแผนงานระยะยาวเป็นสิ่งที่พวกเขาโฟกัสในช่วงซัมเมอร์นี้
ในขณะที่ เจา เนเวส เป็นแข้งดาวรุ่งที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำหน่งในแดนกลาง โปรไฟล์ของเนเวส ดูจะมีความดุดันในการเข้าสกัด และมุทะลุในการพาบอลขึ้นหน้า แม้ว่าเขาอาจจะต้องพัฒนาเรื่องร่างกาย เพื่อรับมือกับความเข้มข้นในเวทีพรีเมียร์ลีก ด้วยการที่เขาอายุแค่ 19 ในช่วงแรกอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวให้เขากับฟุตบอลอังกฤษ ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริง
โดยรวมแล้ว ทั้งคู่ต่างเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพ และไม่แปลกใจที่ทำไมอาร์เซน่อลจึงสนใจทั้งคู่.....
Post By: