VIEW POST
สายสุดท้ายถึงอาร์เตต้า!! เบื้องหลังดีลไฮแจ็ค "เอเบเรซี่ เอเซ่" ของอาร์เซน่อล
นี่ไม่ใช่การแย่งตัว แต่มันคือเรื่องราวของความรัก
ในวันพุธที่ผ่านมา เอเบเรชี เอเซ กำลังคาดหวังว่าจะเซ็นสัญญากับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นเป็นการย้ายทีมที่ดี สโมสรในลอนดอน ทีมที่ได้เล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ไม่ใช่ทีมธรรมดา สำหรับเส้นทางอาชีพของเขา มันคือการก้าวขึ้นไปอีกขั้น
แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ เขาต้องทำหนึ่งสิ่งสำคัญก่อน เอเซโทรหา มิเกล อาร์เตต้า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งคู่พูดคุยกัน อาร์เตต้าและเอเซเคยคุยกันช่วงปลายเดือนมิถุนายน ตอนที่อาร์เซนอลเริ่มพิจารณาคว้าตัวเพลย์เมคเกอร์วัย 27 ปีของคริสตัล พาเลซ แต่หลังจากนั้นดูเหมือนว่าอาร์เซนอลจะลดความสนใจลง ขณะที่ท็อตแนมเร่งเดินหน้าเจรจา
ในมุมมองของนักฟุตบอลอาชีพ เอเซมีความสุขที่จะเซ็นกับสเปอร์ส แต่เขาโตมากับการเป็นแฟนบอลอาร์เซนอล เขาเคยร้องไห้เมื่อถูกปล่อยตัวออกจากอะคาเดมีของสโมสรตอนอายุ 13 ก่อนที่จะเซ็นอะไรลงไป เอเซจำเป็นต้องรู้ว่ามีโอกาสที่จะกลับมาร่วมงานกับอาร์เซนอลหรือไม่
จังหวะคือทุกสิ่ง และเวลาของเอเซก็เหมาะที่สุด อาร์เซนอลเพิ่งได้รับข่าวร้ายว่า ไค ฮาเวิร์ตซ์ ต้องพักจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า พวกเขากำลังหาทางเสริมแนวรุกอย่างเร่งด่วน
อาร์เตต้าแจ้งเอเซว่า อาร์เซนอลมีการประชุมบอร์ดบริหารในช่วงบ่าย และเมื่อการประชุมสิ้นสุดลง เอเซก็ได้รับข่าวสุดตื่นเต้นว่าดีลใกล้จะปิดเรียบร้อยแล้ว ในคืนวันพุธ อาร์เซนอลสามารถบรรลุข้อตกลงกับคริสตัล พาเลซ ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 81.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมเงื่อนไขเพิ่มเติมอีก 7.5 ล้านปอนด์ ตัวแทนของเอเซก็ตกลงในรายละเอียดสัญญาส่วนตัวแล้ว โดยเป็นสัญญา 4 ปี พร้อมออปชันขยายเพิ่มอีก 1 ปี
ไม่มีการแย่งตัวกับท็อตแนมอย่างแท้จริง มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่ออาร์เซนอลเข้ามาอยู่ในโต๊ะเจรจา ปลายทางของนักเตะรายนี้ก็มีเพียงที่เดียว
นอกจากการพูดคุยกับอาร์เตต้าแล้ว เอเซยังได้ขอร้องเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษที่อยู่กับอาร์เซนอลให้ช่วยผลักดันการย้ายทีมของเขา เช่นเดียวกับกรณีของวิคตอร์ เยอเคเรส ก่อนหน้านี้ อาร์เซนอลประทับใจในตัวนักเตะที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ย้ายไปยังทีมที่เขาใฝ่ฝัน
สำหรับเอเซ การย้ายทีมครั้งนี้คือความฝันที่เป็นจริง สำหรับอาร์เซนอล มันคือการแสดงออกถึงความทะเยอทะยาน เมื่อฮาแวร์ตซ์เจ็บ อาร์เซนอลตั้งใจแน่วแน่ว่าฤดูกาลนี้จะไม่ถูกนิยามด้วยคำว่าบาดเจ็บอีกต่อไป
หลังจากการพูดคุยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน เอเบเรชี เอเซ ไม่เคยหายไปจากความคิดของอาร์เซนอลเลย สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานเขาได้ การดึงตัวเขามาจากคู่แข่งร่วมเมืองก็เป็นเหมือนการใส่ไอซิ่งบนหน้าเค้กเท่านั้น
เอเซรักอาร์เซนอล และสโมสรก็รักเขาเช่นกัน อาร์เตต้าหลงใหลในตัวผู้เล่นรายนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และสโมสรก็ยอมทุ่มเพื่อให้การย้ายทีมเกิดขึ้น เขานำเอาความสามารถที่กล้าเล่น ประสบการณ์ที่มากพอ และแรงกระหายที่จะเขียนเรื่องราวใหม่กับอาร์เซนอล
เพื่อเล่าเบื้องหลังของการย้ายทีมครั้งนี้ The Athletic ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวจากสโมสรที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่เชื่อมโยงกับนักเตะ ซึ่งทั้งหมดให้ข้อมูลแบบไม่เปิดเผยชื่อเพื่อปกป้องความสัมพันธ์ ผู้เล่นที่มีคุณภาพระดับเอเซ ย่อมอยู่ในเรดาร์ของอาร์เซนอลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในตอนแรกพวกเขายังมีลำดับความสำคัญอื่น ๆ ในตลาดซื้อขาย โดยเฉพาะการหากองหน้าตัวเป้าใหม่
เมื่ออาร์เซนอลเริ่มพิจารณาคว้าตัวเอเซครั้งแรก เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเจรจาสัญญากับอีธาน วาเนรี ขณะนั้นอาร์เซนอลยังคาดหวังว่าวาเนรีจะต่อสัญญา แต่การเจรจาก็เข้าสู่ช่วงเปราะบาง
วาเนรีเหลือสัญญาเพียง 12 เดือน และมีหลายสโมสรทั้งในพรีเมียร์ลีกและต่างประเทศให้ความสนใจ อาร์เซนอลชัดเจนว่าพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เขาเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญาได้ สโมสรไม่เคยต้องการขายนวาเนรี แต่ก็มีความกังวลว่าอาจถึงจุดนั้น
ด้วยความรอบคอบ อาร์เซนอลจึงเริ่มพิจารณาทางเลือกสำรอง พวกเขาได้พูดคุยถึงชื่อของมอร์แกน โรเจอร์ส และมอร์แกน กิบส์-ไวต์ แต่เอเซคือคนที่ดึงดูดมากที่สุด ในการพูดคุยช่วงแรก บุคลิกของเอเซสร้างความประทับใจอย่างมาก
ปัญหาหลักคือราคา ในช่วงฤดูร้อนส่วนใหญ่ เอเซมีเงื่อนไขฉีกสัญญาที่อนุญาตให้เขาย้ายทีมได้ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ บวกโบนัสอีก 8 ล้านปอนด์ อาร์เซนอลมองว่าราคานี้สูงเกินไปสำหรับผู้เล่นอายุ 27 ปี พวกเขาหวังจะจ่ายใกล้เคียง 40 ล้านปอนด์ หรืออาจสูงสุดประมาณ 50 ล้านปอนด์พร้อมโบนัส แต่สำหรับพาเลซ นั่นคือการปฏิเสธทันที
ความกังวลของอาร์เซนอลจบลงเมื่อพวกเขาบรรลุความคืบหน้าในการเจรจาสัญญากับวาเนรีในครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม ความสนใจในเอเซถูกเก็บเข้าลิ้นชักชั่วคราว อาร์เซนอลมองเอเซเป็นผู้เล่นที่เหมาะกับบทบาทตรงกลางสนาม และในเวลานั้นพวกเขาให้ความสำคัญกับการเสริมตัวริมเส้นมากกว่า พวกเขาจึงเดินหน้าดีลกับโนนี่ มาดูเอเก้ ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 48.5 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับตลาด
ทั้งอาร์เซนอลและท็อตแนมมีจุดร่วมในดีลของเอเซ คือทั้งคู่เร่งความสนใจขึ้นเพราะอาการบาดเจ็บ เมื่อเจมส์ แมดดิสันได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้า (ACL) ในเกมอุ่นเครื่องกับนิวคาสเซิล สเปอร์สจึงเร่งเจรจาคว้าตัวแข้งพาเลซรายนี้
เช่นเดียวกับอาร์เซนอล สเปอร์สก็ไม่ต้องการจ่ายตามเงื่อนไขฉีกสัญญา พวกเขาเริ่มการเจรจาแบบอ้อมกับคริสตัล พาเลซเกี่ยวกับค่าตัว ทั้งสองสโมสรเริ่มต้นด้วยการประเมินราคาที่แตกต่างกันมาก แต่ค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้กันภายหลัง ภายในวันที่ 15 สิงหาคม มีรายงานว่าพวกเขา “ใกล้จะตกลงกันได้มาก”
ในวันที่ 18 สิงหาคม แดเนียล เลวี ประธานสเปอร์ส ได้พบกับสตีฟ พาริช ประธานพาเลซแบบตัวต่อตัว พวกเขาตกลงกรอบของดีลที่ค่าตัว 50 ล้านปอนด์ บวกโบนัสอีก 10 ล้านปอนด์
แต่วันถัดมา ดีลกลับถอยหลัง ปัญหาอยู่ในรายละเอียด แม้จะตกลงในกรอบหลักได้ แต่มีความขัดแย้งเรื่องโครงสร้างโบนัส ทั้งสองฝ่ายรู้สึกหงุดหงิด และในเย็นวันอังคาร ดีลนี้ดูเหมือนจะตกอยู่ในความเสี่ยง
ขณะเดียวกัน ทางฝั่งลอนดอนเหนือ อาร์เซนอลก็ประสบปัญหาของตัวเองในคืนนั้น ฮาแวร์ตซ์พลาดเกมอุ่นเครื่องรองสุดท้ายเพราะปัญหาหัวเข่า และคราวนี้ดูเหมือนอาการจะร้ายแรงกว่า การสแกนเมื่อวันอังคารไม่ได้ให้กำหนดเวลาชัดเจนในการฟื้นตัว แต่ทำให้อาร์เซนอลกังวล ในกรณีที่ดีที่สุด เขาอาจต้องพักหลายสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่อาร์เซนอลต้องเจอกับลิเวอร์พูล นิวคาสเซิล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในกรณีที่แย่ที่สุด เขาอาจพักนานหลายเดือน
การเสียฮาแวร์ตซ์ไม่ว่าช่วงเวลาใดก็ถือเป็นผลกระทบครั้งใหญ่ หากเขาฟิตสมบูรณ์ หลายคนในอาร์เซนอลเชื่อว่าเขาจะได้ลงตัวจริงที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด อาร์เตต้ามองว่าเขาจะพึ่งพาดาวเตะเยอรมันในขณะที่วิคตอร์ เยอเคเรสค่อย ๆ สร้างความฟิต
อาร์เซนอลซื้อเยอเคเรส เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีความลึกและตัวเลือกในตำแหน่งกองหน้า การขาดฮาแวร์ตซ์เป็นเวลานานจะทำให้พวกเขากลับไปอยู่จุดเริ่มต้น อาร์เซนอลตระหนักว่าพวกเขาต้องกลับเข้าสู่ตลาด
ในเช้าวันพุธ เพื่อพยายามเร่งดีล สเปอร์สยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการที่ตอบสนองทุกเงื่อนไขของพาเลซ รวมถึงการอนุญาตให้เอเซลงเล่นในรอบคัดเลือกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในคืนวันพฤหัสบดี แต่พวกเขาไม่ได้รับคำตอบ ภายในไม่กี่ชั่วโมง พาริชได้บรรลุข้อตกลงกับอาร์เซนอลแล้ว
เป็นที่ทราบกันดีว่าเอเซชื่นชอบอาร์เซนอล แต่พาเลซก็เช่นกัน
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพาริชกับทิม ลูอิส รองประธานบริหารของอาร์เซนอลคือกุญแจสำคัญ แม้อาร์เซนอลจะถอยออกจากดีลเอเซไป แต่พวกเขายังคงติดตามความคืบหน้าอยู่เสมอ เผื่อว่าจะกลับมาเจรจาอีกหากมีการขายนักเตะออกไป การเจรจาระหว่างท็อตแนมกับพาเลซเป็นเรื่องยาก และเมื่ออาร์เซนอลกับลูอิสก้าวเข้ามาเป็นผู้ซื้อทางเลือก พาริชก็ยินดีที่จะตอบรับ
อาร์เซนอลได้พูดคุยถึงตัวเลือกหลายคนเพื่อแทนที่ฮาแวร์ตซ์ พวกเขาเคยพิจารณาเรื่องการหากองหน้าตัวเป้า แต่รู้ดีว่านั่นจะทำให้เกิดความแออัดเมื่อตัวฮาเวิร์ตซ์กลับมา บางคนเสนอว่าควรหาตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยชื่อของโรดรีโก้จากเรอัล มาดริด ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง
แต่สุดท้ายก็เป็นเอเบเรชี เอเซที่ชนะใจ เขาได้สร้างความประทับใจอย่างมากต่ออาร์เตต้า และอาร์เซนอลตัดสินใจว่าเขานำคุณสมบัติที่ทีมยังไม่มีเข้ามาเติมเต็ม
เมื่อได้รับการอนุมัติจากเจ้าของสโมสร จอช โครเอนเก้ ประธานร่วมของสโมสรอยู่ในยุโรปสำหรับการเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกและเป็นผู้ลงนามในนาม Kroenke Sports & Entertainment พวกเขาก็เดินหน้ายื่นข้อเสนอ สเปอร์สเจรจามาหลายสัปดาห์ แต่อาร์เซนอลสามารถปิดดีลได้ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
อาร์เซนอลรู้ดีว่าการอยู่ในสถานการณ์แบบท็อตแนมเป็นอย่างไร เพราะในเดือนมกราคม 2023 พวกเขาเคยโดนเชลซีปาดหน้าคว้าตัว มิคไฮโล มูดริก มาแล้ว แต่คราวนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร
สำหรับคริสตัล พาเลซ ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ข้อตกลงสุดท้ายอยู่ที่ค่าตัวเริ่มต้น 60 ล้านปอนด์ บวกโบนัสเพิ่มเติม 7.5 ล้านปอนด์ ซึ่งแทบจะเท่ากับค่าฉีกสัญญาที่หมดอายุไปก่อนพรีเมียร์ลีกจะเริ่ม พาเลซได้รับประโยชน์จากการมีสองสโมสรที่สนใจเอเซ
อาร์เซนอลยังตกลงว่าเอเซสามารถลงเล่นในเกมพบเฟรดริกสตัดในคืนวันพฤหัสบดีได้ โดยจะกำหนดการตรวจร่างกายในวันถัดไป
ความเต็มใจของอาร์เซนอลในการใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อคว้าเอเซ โดยที่ยังไม่ได้ขายนักเตะเพื่อสร้างรายได้ ทำให้หลายคนแปลกใจ อาร์เซนอลใช้เงินเกือบ 70 ล้านปอนด์เพื่อซื้อนักเตะที่ครั้งหนึ่งเคยปล่อยออกจากอะคาเดมีไปฟรี ๆ แม้แต่ภายในสโมสรก็มีบางคนที่เรียกร้องให้ระมัดระวัง อาร์เซนอลกำลังเข้าใกล้เส้นขีดจำกัดด้านการเงินของกฎสัดส่วนค่าใช้จ่ายนักเตะของยูฟ่าอย่างมาก
แต่ในช่วงซัมเมอร์นี้ อาร์เซนอลเลือกแนวทางเชิงรุก พวกเขามองว่านี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการลังเล
เอเซ ซึ่งจะสวมเสื้อหมายเลข 10 เป็นอีกหนึ่งการเสริมทัพระดับแถวหน้าของอาร์เซนอล นักเตะที่มีคุณภาพพร้อมเป็นตัวจริง เขาเป็นที่รู้จักของหลายคนในทีมผ่านการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ เขานำความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถเฉพาะตัว และผลงานมาด้วย โดยฤดูกาลที่แล้วทำได้ 14 ประตู และ 11 แอสซิสต์ให้กับพาเลซ
เขายังมีความฉลาดทางแท็กติกอีกด้วย ภายใต้การคุมทีมของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เขาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเล่นในระบบที่ซับซ้อน
เขาไม่ใช่ตัวแทนตรงของฮาแวร์ตซ์ แต่เขามีความหลากหลายพอที่จะมอบทางเลือกหลายอย่าง แม้ในตอนแรกอาร์เซนอลมองเขาเป็นผู้เล่นตรงกลาง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังพิจารณาให้เขาเล่นทางฝั่งซ้าย การมีเขาอยู่ในทีมยังช่วยให้เลอันโดร ทรอสซาร์ด และมิเกล เมรีโน สามารถสลับไปเล่นแทนฮาเวิร์ตซ์ได้เมื่อจำเป็น
ท้ายที่สุด เอเซไม่ได้ลงเล่นกับเฟรดริกสตัด ในเช้าวันพฤหัสบดี เขาได้อธิบายกับกลาสเนอร์ว่าเขารู้สึกไม่พร้อมจะลงสนาม ใจเขาอยู่ที่อื่น หัวใจก็เช่นกัน
อาร์เซนอลไม่ได้เพียงแค่ซื้อตัวเอเซ พวกเขาพาเขากลับบ้าน เกือบจะเป็นสเปอร์สแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นอาร์เซนอล
Post By: admin